ประเภทของงานพิมพ์ ที่โรงพิมพ์นิยมใช้กันบ่อยๆ มาดูกันค่ะ

การพิมพ์ เป็นจำลองต้นฉบับหรือการสำเนาลงบนวัตถุที่มีพื้นผิวเรียบหรืออาจจะแบนราบหรือโค้งนูน ค่อนข้างขรุขระเพียงเล็กน้อย ให้มีคุณภาพใกล้เคียงกับต้นฉบับมากที่สุด โดยคำนึงถึงปริมาณในการผลิตจำนวนมาก สิ่งที่นำมาสำเนาอาจเป็นรูปภาพ ตัวหนังสือ สัญลักษณ์ต่าง ๆ วัตถุที่นำมารองรับอาจเป็นวัตถุผิวเรียบ เช่นกระดาษแผ่นไม้กระดานหรืออาจมีประเภทนูนหรือขรุขระ ผิวโค้ง ก็ได้ ในปัจจุบันจะไม่ใช้การพิมพ์เพียงประเภทเดียว เพราะจะทำให้งานพิมพ์ออกมาไม่มีคุณภาพเท่าที่ควร ซึ่ง โรงพิมพ์ ส่วนใหญ่ที่ผู้ประกอบการโรงพิมพ์นิยมใช้ จะใช้วิธีการพิมพ์หลักๆอยู่ 4 ประเภทด้วยกัน โดยแต่ละประเภทนั้น จะมีความเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกันไป และมีลักษณะของการพิมพ์ที่แตกต่างกันอีกด้วยค่ะ

การพิมพ์แบบออฟเซ็ท เป็นการพิมพ์ที่เน้นรายละเอียดการพิมพ์สูงจนถึงสูงมาก ทำให้งานพิมพ์มีคุณภาพและใช้เวลาในการพิมพ์เร็วที่สุดอีกด้วยค่ะ ใช้ระบบและหลักการ น้ำไม่รวมกับน้ำมัน ซึ่งโรงพิมพ์ส่วนใหญ่ให้ความนิยมมากที่สุด แต่การพิมพ์ออฟเซ็ท จะใช้กับการพิมพ์แบบพื้นราบเท่านั้น จึงเหมาะกับการพิมพ์แบบพื้นราบที่ใช้หลักการเดียวกันนั่นเอง เครื่องพิมพ์มีหลายขนาด มีทั้งเครื่องพิมพ์ 1 สี 2 สี 4 สี 5 สี หรือมากกว่านั้น ตัวอย่างงานพิมพ์ออฟเซ็ท เช่น พิมพ์ใบปลิว พิมพ์แผ่นพับ พิมพ์โบรชัวร์ พิมพ์หนังสือ พิมพ์วารสาร พิมพ์นิตยสาร บรรจุภัณฑ์กระดาษ พิมพ์แคตตาล็อก และงานพิมพ์ใช้ในสำนักงาน

การพิมพ์ดิจิตอล เป็นการพิมพ์ที่จะใช้เครื่องพิมพ์หรือพริ้นเตอร์ต่อพ่วงกับเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยให้ให้ความสะดวกรวดเร็วเหมาะกับงานที่ต้องการความเร่งด่วน แต่สำหรับ โรงพิมพ์ นั้น จะเป็นเครื่องปริ้นที่มีความแตกต่างออกไปจากที่เรานิยมใช้กัน คือ ใช้หมึกประจุไฟฟ้าในการพิมพ์ แต่การพิมพ์ดิจิตอลนั้น มักจะใช้กับงานพิมพ์ที่มีขนาดเล็กและมักจะต้องพิมพ์ใหม่บ่อยๆหรือเปลี่ยนข้อมูลของงานพิมพ์บ่อยๆนั่นเองค่ะตัวอย่างงานพิมพ์ประเภทนี้คือ งานพิมพ์ที่มีปริมาณไม่มาก เช่น นามบัตร แผ่นพับ ใบปลิว หนังสือ งานพิมพ์ที่มีการเปลี่ยนภาพหรือข้อความบ่อย ๆ เช่น ไดเร็คเมล์ งานพิมพ์ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่

การพิมพ์เลตเตอร์เพรสส์ เป็นการพิมพ์ที่ต้องใช้แม่พิมพ์ในการพิมพ์ ซึ่งเป็นการพิมพ์แบบโบราณ และยังเป็นการพิมพ์ที่ทำได้ยากมากทีเดียว ซึ่งการพิมพ์เลตเตอร์เพรสส์นั้น จะเป็นการพิมพ์ที่ใช้กับงานพิมพ์พื้นนูนเท่านั้น แต่ในปัจจุบัน พบว่าการพิมพ์ประเภทนี้ ไม่ค่อยมีให้เห็นนัก เพราะต้องทำแม่แบบ ซึ่งจะทำให้มีความยุ่งยากมากทีเดียว อีกทั้งยังมักจะได้ภาพและข้อความที่ไม่ค่อยสวยอีกด้วย เมื่อมีการพิมพ์แบบใหม่ที่ทันสมัยและรวดเร็วกว่าขึ้นมาการพิมพ์แบบนี้จึงเริ่มตกยุคไปนั่นเอง

การพิมพ์(ซิลค์)สกรีน เป็นการพิมพ์ที่คล้ายกับการสกรีน คือจะให้น้ำหมึกซึมผ่านทะลุไปตามรอยที่ทำการฉลุไว้นั่นเอง ซึ่งการพิมพ์แบบนี้จะเหมาะกับงานพิมพ์ที่เป็นพื้นฉลุเท่านั้น และต้องเป็นงานที่ไม่ต้องการรายละเอียดมากนัก สามารถพิมพ์งานสอดสีได้ นอกจากนี้การพิมพ์(ซิลค์)สกรีน ยังสามารถใช้กับการพิมพ์บนวัตถุที่เป็นแนวโค้งได้อีกด้วย เช่นแก้ว ขวด จานชาม เป็นต้น

การพิมพ์แต่ละประเภทนั้น จะเหมาะกับงานพิมพ์ที่แตกต่างกัน ซึ่งงานพิมพ์ส่วนใหญ่ในท้องตลาดจะเป็นงานพิมพ์ประเภทออฟเซ็ท เนื่องจากมีความสะดวกและคล่องตัวในการผลิต ดังนั้นประเภทของโรงพิมพ์ที่มีให้บริการมากที่สุดก็คือโรงพิมพ์ออฟเซ็ท