ก่อนที่จะ จำนำเล่มรถ ต้องรู้ขั้นตอนและเงื่อนไขก่อน

คนมีต้องรู้ ก่อนขอสินเชื่อรถแลกเงิน
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการเงินก้อนมาเสริมสภาพคล่อง ไม่ว่าจะไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จ่ายค่าเทอมบุตรหลาน ค่ารักษาพยาบาล แหล่งเงินด่วนถูกกฎหมายอย่างการเปลี่ยนรถเป็นเงินถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ หากมีเล่มทะเบียนอยู่ในมือก็สามารถนำไป จำนำเล่มรถ ได้ นอกจากได้รับเงินก้อนในระยะเวลาอันรวดเร็ว ยังเลือกผ่อนชำระได้ตามระยะเวลาที่ต้องการ ใครมีแพลนขอสินเชื่อ จำนำเล่มรถ แต่ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง และมีที่ไหนน่าสนใจบ้างมาหาคำตอบกัน

รู้จักการจำนำเล่มทะเบียนรถยนต์ ตัวช่วยสำหรับคนมีรถ

ก่อนอื่นขอพาทุกคนไปทำความรู้จักการจำนำทะเบียนรถหรือรถแลกเงินให้มากขึ้น โดยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถก็คือการ จำนำเล่มรถ ที่มีชื่อคุณเป็นผู้ครอบครองไปฝากไว้ที่ธนาคารหรือผู้ให้บริการที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน เพื่อเป็นประกันการกู้ยืมเงินจนกว่าจะชำระเงินต้นและดอกเบี้ยคืนครบตามที่ระบุไว้ในสัญญา และระหว่างผ่อนชำระผู้ขอสินเชื่อยังใช้งานรถได้เหมือนเดิม เมื่อพิจารณาพบว่ารถที่นำมาขอสินเชื่อต้องเป็นรถที่ผ่อนหมดแล้วหรือรถปลอดภาระเท่านั้น

โดยข้อดีของการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถประเภทนี้ คือ รู้ผลอนุมัติไว ได้รับเงินโอนเข้าบัญชีทันทีหลังทราบผล แค่มีรถปลอดภาระก็เหมือนมีเงินสดอยู่ในมือ ปัจจุบันการจำนำทะเบียนรถที่ได้รับความนิยมมีทั้งแบบโอนเล่มและไม่โอนเล่ม โดยทั้งสองแบบมีความแตกต่างกันดังนี้

จำนำเล่มทะเบียนรถแบบโอนเล่ม
เป็นการกู้ยืมเงินที่ผู้ขอสินเชื่อต้องโอนกรรมสิทธิ์รถไปเป็นชื่อธนาคารหรือผู้ให้บริการที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน โดยขั้นตอนการโอนเล่มทะเบียนผู้ขอสินเชื่อต้องไปทำเองที่กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งใกล้บ้าน พร้อมชำระค่าบริการที่เกี่ยวข้องกับการโอนรถทั้งหมด แม้จะมีการโอนเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองจริง แต่ผู้ขอสินเชื่อยังใช้งานรถคันดังกล่าวได้เหมือนเดิมไม่ต้องจอดทิ้งไว้ที่ผู้ให้บริการสินเชื่อ เมื่อผ่อนชำระเงินคืนครบถึงไปทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์รถคืนเป็นชื่อตนเอง

จำนำเล่มทะเบียนรถแบบไม่โอนเล่ม
คือ การขอสินเชื่อจำนำรถโดยใช้เล่มทะเบียนรถเป็นประกันการกู้ยืมเงิน ไม่ต้องโอนกรรมสิทธิ์ไปให้ธนาคารหรือผู้ให้บริการที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ชื่อบนสมุดรถยังเป็นชื่อผู้ขอสินเชื่อเหมือนเดิม นอกจากได้รับเงินสดไปใช้จ่ายตามความต้องการ ยังสามารถนำรถไปใช้งานได้ปกติ เมื่อผ่อนชำระครบถึงได้เล่มทะเบียนคืนกลับไป
โอนเล่มกับไม่โอนเล่มต่างกันยังไง เลือกแบบไหนถึงตอบโจทย์

เพื่อให้ตัดสินใจเลือกวิธี จำนำเล่มรถ ได้คุ้มค่าและตรงใจมากที่สุด มาดูกันว่าสินเชื่อรถแลกเงินโอนเล่มกับไม่โอนเล่มต่างกันยังไง

วงเงินสินเชื่อ
การขอสินเชื่อจำนำทะเบียนรถหรือสินเชื่อรถแลกเงินแบบไม่โอนเล่มอาจได้รับอนุมัติวงเงินที่น้อยกว่า เนื่องจากเป็นการฝากเล่มทะเบียนไว้ที่ผู้ให้บริการสินเชื่อเท่านั้น ต่างจากการสมัครสินเชื่อแบบโอนเล่มที่มีการเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองรถไปเป็นธนาคารหรือผู้ให้บริการที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน เป็นผลให้ผู้ให้บริการสินเชื่อมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นว่าผู้ขอสินเชื่อจะชำระเงินคืนจนครบ ทำให้ได้รับวงเงินอนุมัติที่สูงกว่า

ขั้นตอนการสมัครต่างกัน
จำนำรถแบบโอนเล่มต้องมีการเดินทางไปโอนกรรมสิทธิ์รถที่กรมกรมขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งใกล้บ้าน ทำให้ต้องเตรียมเอกสารประกอบการสมัครและโอนรถมากกว่าเดิม ขณะที่การขอสินเชื่อแบบไม่โอนเล่ม แค่นำเล่มทะเบียนรถที่ปลอดภาระและเอกสารการสมัครตามที่ผู้ให้บริการสินเชื่อกำหนดไว้ไปยื่น หากคุณสมบัติผ่านและเอกสารครบถ้วนใช้เวลาไม่นานก็ทราบผลอนุมัติ

ระยะเวลาอนุมัติสินเชื่อ
สินเชื่อรถแลกเงินแบบไม่โอนเล่มเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์คนต้องการเงินด่วน เพราะทราบผลอนุมัติไวและรับโอนเงินเข้าบัญชีทันทีเมื่อผ่านการอนุมัติ แค่เอกสารครบ คุณสมบัติผู้สมัครเป็นไปตามเงื่อนไข รู้ผลเร็วภายใน 1 ชั่วโมง ขณะที่สินเชื่อแบบโอนเล่มทะเบียนใช้ระยะเวลาดำเนินการนานกว่า เนื่องจากผู้ขอสินเชื่อต้องไปดำเนินการโอนเล่มทะเบียนให้เรียบร้อยก่อน ถึงไปยื่นใบสมัครขอสินเชื่อได้

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
สำหรับรถแลกเงินแบบโอนเล่ม ผู้ขอสินเชื่อต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการโอนเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองในเล่มทะเบียนรถเองทั้งหมด ขณะที่สินเชื่อแบบไม่โอนเล่มไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

เมื่อทราบถึงความแตกต่างระหว่างการขอสินเชื่อจำนำทะเบียนรถแบบโอนเล่มกับไม่โอนเล่ม จะเลือกใช้บริการแบบไหนถึงตอบโจทย์คนมีรถปลอดภาระ ให้พิจารณาถึงความต้องใช้เงินก้อนว่าด่วนมากแค่ไหน ถ้าอยากได้เงินมาใช้จ่ายทันทีไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดจำนำเล่มรถ แบบไม่โอนเล่มถือเป็นทางออกที่เหมาะสมที่สุด เพราะไม่ต้องรอผลอนุมัติสินเชื่อนาน แต่กรณีที่ไม่รีบเพราะอยากได้เงินสดมาสำรองไว้ยามฉุกเฉินหรือต่อยอดธุรกิจ การสมัครสินเชื่อแบบโอนเล่มที่ให้วงเงินสูงน่าจะตอบโจทย์มากกว่า

ก่อนไปขอสินเชื่อจำนำเล่มรถควรรู้เรื่องใดบ้าง

ชื่อผู้ขอสินเชื่อกับเจ้าของกรรมสิทธิ์รถต้องเป็นคนเดียวกัน
หนึ่งในปัญหาสำคัญที่คนมีรถปลอดภาระที่ต้องการเปลี่ยนรถเป็นเงินควรรู้ ก็คือชื่อผู้ขอสินเชื่อกับชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ในเล่มทะเบียนต้องเป็นบุคคลเดียวกันเท่านั้น ไม่สามารถนำรถที่เป็นของบุคคลอื่นมายื่นขอสินเชื่อได้ เว้นแต่จะพาเจ้าของกรรมสิทธิ์รถตัวจริงมาดำเนินการสมัครสินเชื่อจำนำทะเบียนรถด้วยตัวเอง

ต้องเป็นรถปลอดภาระเท่านั้น
การสมัครสินเชื่อส่วนบุคคลแบบมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน อย่างการจำนำรถทั้งแบบโอนเล่มและไม่โอนเล่ม ทางธนาคารหรือผู้ให้บริการที่ไม่ใช่สถาบันการเงินได้กำหนดเงื่อนไขไว้ชัดเจนว่า รับเฉพาะรถปลอดภาระหรือรถผ่อนหมดแล้วเท่านั้น ฉะนั้นใครที่รถยังติดผ่อนอยู่ไม่สามารถขอสินเชื่อประเภทนี้ได้ แต่ถ้าต้องการเงินมาเสริมสภาพคล่องจริง ๆ อาจเลือกขอรีไฟแนนซ์รถแทน

คุณสมบัติผู้ขอสินเชื่อและประเภทรถที่รับ
นอกจากมีเล่มทะเบียนรถปลอดภาระมาเป็นประกันการกู้ยืมเงิน คุณสมบัติของผู้สมัครและประเภทรถที่นำมาจำนำก็มีความสำคัญไม่น้อย หากคุณสมบัติหรือประเภทรถไม่ตรงตามเงื่อนไข อาจทำให้ต้องเสียเวลาเตรียมเอกสารใหม่ แถมได้เงินก้อนล่าช้ากว่าเดิม สำหรับผู้ที่สนใจสินเชื่อควรมีคุณสมบัติดังนี้
– สัญชาติไทย อายุ 20 – 65 ปี
– รายได้ขั้นต่ำ 8,000 บาทต่อเดือน (กรณีเจ้าของกิจการ มียอดขายต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 30,000 บาท)
– ประสบการณ์ทำงานไม่ต่ำกว่า 4 เดือน (กรณีเจ้าของกิจการต้องดำเนินธุรกิจไม่ต่ำกว่า 6 เดือน)
– มีรถยนต์ รถกระบะ รถตู้เป็นชื่อของตนเอง โดยถือครองเล่มทะเบียนไม่ต่ำกว่า 6 เดือน

เอกสารที่ใช้สมัครสินเชื่อ
แม้ธนาคารหรือผู้ให้บริการที่ไม่ใช่สถาบันการเงินจะกำหนดเอกสารสมัครสินเชื่อรถแลกเงินไว้ใกล้เคียงกัน แต่กรณีสมัครสินเชื่อ จำนำเล่มรถ มีลิสต์เอกสารที่ต้องตระเตรียมให้พร้อม ดังนี้
– สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
– สำเนาทะเบียนบ้าน
– เอกสารแสดงรายได้ เช่น หนังสือรับรองเงินเดือน หรือสลิปเงินเดือนล่าสุด (ฉบับจริง) หรือหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ทวิ 50 หรือเอกสารแสดงการประกอบอาชีพ
– สำเนาเอกสารแสดงรายการเดินบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน
– สำเนาหน้าแรกของสมุดบัญชีธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย หรือธนาคารกรุงเทพ
– ทะเบียนรถเล่มจริง และมีชื่อผู้กู้เป็นเจ้าของ
– สำเนากรมธรรม์ประกันภัยตามเงื่อนไข

ประเภทของงานพิมพ์ ที่โรงพิมพ์นิยมใช้กันบ่อยๆ มาดูกันค่ะ

การพิมพ์ เป็นจำลองต้นฉบับหรือการสำเนาลงบนวัตถุที่มีพื้นผิวเรียบหรืออาจจะแบนราบหรือโค้งนูน ค่อนข้างขรุขระเพียงเล็กน้อย ให้มีคุณภาพใกล้เคียงกับต้นฉบับมากที่สุด โดยคำนึงถึงปริมาณในการผลิตจำนวนมาก สิ่งที่นำมาสำเนาอาจเป็นรูปภาพ ตัวหนังสือ สัญลักษณ์ต่าง ๆ วัตถุที่นำมารองรับอาจเป็นวัตถุผิวเรียบ เช่นกระดาษแผ่นไม้กระดานหรืออาจมีประเภทนูนหรือขรุขระ ผิวโค้ง ก็ได้ ในปัจจุบันจะไม่ใช้การพิมพ์เพียงประเภทเดียว เพราะจะทำให้งานพิมพ์ออกมาไม่มีคุณภาพเท่าที่ควร ซึ่ง โรงพิมพ์ ส่วนใหญ่ที่ผู้ประกอบการโรงพิมพ์นิยมใช้ จะใช้วิธีการพิมพ์หลักๆอยู่ 4 ประเภทด้วยกัน โดยแต่ละประเภทนั้น จะมีความเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกันไป และมีลักษณะของการพิมพ์ที่แตกต่างกันอีกด้วยค่ะ

การพิมพ์แบบออฟเซ็ท เป็นการพิมพ์ที่เน้นรายละเอียดการพิมพ์สูงจนถึงสูงมาก ทำให้งานพิมพ์มีคุณภาพและใช้เวลาในการพิมพ์เร็วที่สุดอีกด้วยค่ะ ใช้ระบบและหลักการ น้ำไม่รวมกับน้ำมัน ซึ่งโรงพิมพ์ส่วนใหญ่ให้ความนิยมมากที่สุด แต่การพิมพ์ออฟเซ็ท จะใช้กับการพิมพ์แบบพื้นราบเท่านั้น จึงเหมาะกับการพิมพ์แบบพื้นราบที่ใช้หลักการเดียวกันนั่นเอง เครื่องพิมพ์มีหลายขนาด มีทั้งเครื่องพิมพ์ 1 สี 2 สี 4 สี 5 สี หรือมากกว่านั้น ตัวอย่างงานพิมพ์ออฟเซ็ท เช่น พิมพ์ใบปลิว พิมพ์แผ่นพับ พิมพ์โบรชัวร์ พิมพ์หนังสือ พิมพ์วารสาร พิมพ์นิตยสาร บรรจุภัณฑ์กระดาษ พิมพ์แคตตาล็อก และงานพิมพ์ใช้ในสำนักงาน

การพิมพ์ดิจิตอล เป็นการพิมพ์ที่จะใช้เครื่องพิมพ์หรือพริ้นเตอร์ต่อพ่วงกับเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยให้ให้ความสะดวกรวดเร็วเหมาะกับงานที่ต้องการความเร่งด่วน แต่สำหรับ โรงพิมพ์ นั้น จะเป็นเครื่องปริ้นที่มีความแตกต่างออกไปจากที่เรานิยมใช้กัน คือ ใช้หมึกประจุไฟฟ้าในการพิมพ์ แต่การพิมพ์ดิจิตอลนั้น มักจะใช้กับงานพิมพ์ที่มีขนาดเล็กและมักจะต้องพิมพ์ใหม่บ่อยๆหรือเปลี่ยนข้อมูลของงานพิมพ์บ่อยๆนั่นเองค่ะตัวอย่างงานพิมพ์ประเภทนี้คือ งานพิมพ์ที่มีปริมาณไม่มาก เช่น นามบัตร แผ่นพับ ใบปลิว หนังสือ งานพิมพ์ที่มีการเปลี่ยนภาพหรือข้อความบ่อย ๆ เช่น ไดเร็คเมล์ งานพิมพ์ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่

การพิมพ์เลตเตอร์เพรสส์ เป็นการพิมพ์ที่ต้องใช้แม่พิมพ์ในการพิมพ์ ซึ่งเป็นการพิมพ์แบบโบราณ และยังเป็นการพิมพ์ที่ทำได้ยากมากทีเดียว ซึ่งการพิมพ์เลตเตอร์เพรสส์นั้น จะเป็นการพิมพ์ที่ใช้กับงานพิมพ์พื้นนูนเท่านั้น แต่ในปัจจุบัน พบว่าการพิมพ์ประเภทนี้ ไม่ค่อยมีให้เห็นนัก เพราะต้องทำแม่แบบ ซึ่งจะทำให้มีความยุ่งยากมากทีเดียว อีกทั้งยังมักจะได้ภาพและข้อความที่ไม่ค่อยสวยอีกด้วย เมื่อมีการพิมพ์แบบใหม่ที่ทันสมัยและรวดเร็วกว่าขึ้นมาการพิมพ์แบบนี้จึงเริ่มตกยุคไปนั่นเอง

การพิมพ์(ซิลค์)สกรีน เป็นการพิมพ์ที่คล้ายกับการสกรีน คือจะให้น้ำหมึกซึมผ่านทะลุไปตามรอยที่ทำการฉลุไว้นั่นเอง ซึ่งการพิมพ์แบบนี้จะเหมาะกับงานพิมพ์ที่เป็นพื้นฉลุเท่านั้น และต้องเป็นงานที่ไม่ต้องการรายละเอียดมากนัก สามารถพิมพ์งานสอดสีได้ นอกจากนี้การพิมพ์(ซิลค์)สกรีน ยังสามารถใช้กับการพิมพ์บนวัตถุที่เป็นแนวโค้งได้อีกด้วย เช่นแก้ว ขวด จานชาม เป็นต้น

การพิมพ์แต่ละประเภทนั้น จะเหมาะกับงานพิมพ์ที่แตกต่างกัน ซึ่งงานพิมพ์ส่วนใหญ่ในท้องตลาดจะเป็นงานพิมพ์ประเภทออฟเซ็ท เนื่องจากมีความสะดวกและคล่องตัวในการผลิต ดังนั้นประเภทของโรงพิมพ์ที่มีให้บริการมากที่สุดก็คือโรงพิมพ์ออฟเซ็ท

รับทำวีซ่า ที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย พร้อมการรองรับคุณภาพในการทำงาน

หลายคนมี การวางแพลนเพื่อเดินทางไปยังต่างประเทศ ซึ่งประเทศในแถบเอเชียของเราส่วนใหญ่นั้นเราสามารถเดินทางเข้าประเทศได้เลยโดยไม่ต้องขอวีซ่าในการเดินทางเข้าประเทศเหมือนแต่ก่อน แต่ก็มีเพียงบางประเทศที่ยังต้องยื่นวีซ่าในการเดินทาง รวมไปถึงแถบประเทศฝั่งยุโรปที่ต้องใช้วีซ่าในการเดินทางเข้าประเทศเช่นเดียวกัน รับทำวีซ่า บางคนกำลังเตรียมตัวเดินทางไปต่างประเทศอาจจะไม่รู้ว่าหากจะทำวีซ่าต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง และ วีซ่าคืออะไร มีความจำเป็นขนาดไหน

วีซ่า (Visa) คือ เอกสารที่แสดงว่า คนนั้นได้รับการอนุญาตให้เข้าประเทศหรือเขตพื้นที่ ซึ่งจะมีการระบุภายในวีซ่าอย่างชัดเจนว่าสามารถอยู่ในพื้นที่ได้ตามกรอบเวลา โดยจะแสดงเป็นเอกสารสำคัญให้เราพกไปยังต่างประเทศ วนใหญ่จะเป็น ตราประทับที่ลงประทับไว้ในหนังสือเดินทาง และจะมีเงื่อนไขต่าง ๆ ของวีซ่า แต่ละประเทศมาด้วยอาทิ เขตพื้นที่ที่อนุญาตให้เดินทางได้ อายุวีซ่า ช่วงเวลาที่เดินทาง เป็นต้น หรือ เข้าใจง่าย ๆ ว่า วีซ่า คือ เอกสารสำคัญในการขอเดินทางเข้าประเทศนั่นเอง

ในยุคนี้การที่จะทำใบอนุญาตวีซ่า นั้นสามารถทำได้เกือบทุกประเทศทั่วโลก เพราะโลกได้ถูกพัฒนาให้ทันสมัย รับทำวีซ่า สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ทั่วโลก ดังนั้นวีซ่าจึงเป็นเอกสารสำคัญในการเดินทางข้ามประเทศ เพื่อการตรวจสอบข้อมูล ยืนยันตัวตน และเข้าประเทศได้อย่างถูกกฎหมาย หากไม่มีวีซ่าหรือวีซ่าหมดอายุ จะถือว่าเป็นผู้ลักลอบเข้าเมืองมีบทลงโทษที่สูงมาก

รับทำวีซ่า สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะไปเที่ยวเอง ไปเยี่ยมญาติ เยี่ยมแฟน ไปเรียนต่อ ไปทำงานต่างประเทศ ช่วยคุณได้ รวมถึงเรายังให้บริการ รับทำวีซ่า จดทะเบียนสมรสกับชาวต่างชาติ บริการพร้อมล่ามและพยาน ทั้งหมดนี้คุณสามารถปรึกษาเราได้ฟรี

เมื่อสัตว์เลี้ยงป่วย จะไปรักษา คลินิกรักษาสัตว์ที่ไหนดี มาดูกันค่ะ

เวลาที่สัตว์เลี้ยง อยู่ๆก็มีอาการป่วย หรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ไม่รู้จะพาไป คลินิกรักษาสัตว์ที่ไหนดี จึงขอรวบรวมรายชื่อและช่องทางการติดต่อ คลินิกรักษาสัตว์ โรงพยาบาลสัตว์ ไว้ให้ เผื่อไว้ในยามฉุกเฉิน ลิสต์รายชื่อและพิกัด คลินิกรักษาสัตว์ รวมถึงโรงพยาบาลสัตว์ สำหรับสมาชิกครอบครัวตัวน้อย เพราะสัตว์เลี้ยงก็เปรียบเสมือนคนในครอบครัวของเรา รับน้องมาเป็นสมาชิกครอบครัวแล้ว ก็ต้องดูแลอย่างดี มีข้อมูลไว้อุ่นใจกว่า สำหรับพาไปตรวจสุขภาพหรือเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินสัตว์เลี้ยงที่คุณรัก รายชื่อคลินิกและโรงพยาบาล ไปดูข้อมูลกันเลยค่ะ

1. Pet Story Clinic คลินิกรับรักษาสัตว์ บริการดี รวดเร็ว ตรวจเช็คทุกเคสโดยสัตวแพทย์โดยตรง
Pet Story Clinic คลินิกรับรักษาสัตว์ พร้อมทุกขั้นตอนการดูแล จัดเตรียมวิธีรักษาที่ได้มาตรฐานสากลให้ความสำคัญกับเคสอาการของสัตว์เลี้ยงที่ได้เข้าตรวจ ประเมินอาการ เริ่มต้นรักษาตามหลักที่สัตวแพทย์ภายในคลินิกให้การดูแล พร้อมเลือกใช้เครื่องมือที่ได้มาตรฐาน รับตรวจพร้อมทำการบำบัดสัตว์เลี้ยงที่พิการ ช่วงเวลาของการรักษาให้คำแนะนำกับเจ้าของสัตว์เลี้ยง แนะนำทุกวัคซีนที่จำเป็นเพื่อป้องกันการเกิดโรคเห็บ หัด หรือโรคยอดนิยมอื่น ๆ ภายในคลินิกมีพื้นที่ให้สัตว์เข้ารับการรักษาได้รู้สึกผ่อนคลาย สะอาดปลอดภัยมีการฆ่าเชื้อทุกครั้งหลังการตรวจให้บริการ เปิดบริการทุกวัน จันทร์-ศุกร์ เปิด 9.00 ส่วน เสาร์และอาทิตย์เปิด 10.00 ปิด 20.00 ทุกวัน

ช่องทางการติดต่อศูนย์รักษาสัตว์ Pet Story Clinic
สาขาบริการ : 557 *เลี้ยวขวาตรงป้อมยามโครงการ* 15 ดิสทริค รามอินทรา-จตุโชติ แขวงสามวาตะวันตก คลองสามวา กรุงเทพมหานคร 10510
โทร : 099-664-6422
Facebook : คลินิกรักษาสัตว์ เพท สตอรี I Pet Story Clinic ซอยไทยรามัญ คลองสามวา

2. Kenta Animal Clinic คลินิกรับรักษาสัตว์เลี้ยง นำเสนอทุกแพ็คเกจสุดคุ้มค่ารักษาทุกอาการจนหายดี
การรักษาที่เน้นตรวจเช็ค ทุกเคสที่รู้สึกไม่สบายใจ Kenta Animal Clinic คลินิกรับรักษาสัตว์เลี้ยง ขั้นตอนการให้บริการดูแลทั้งภายในคลินิกหรือการติดตามอาการจากทางบ้านที่ได้พูดคุยเพื่อทำการประเมินอาการในเบื้องต้น นำเสนอโปรโมชั่นแพ็คเกจสุดคุ้มฉีดวัคซีนป้องกันรักษาโรค เคลียร์ทุกอาการปัญหาที่รู้สึกกังวลให้หายดีได้อย่างปลอดภัย ตัววัคซีนที่เลือกนำมาใช้เน้นของคุณภาพดี ฉีดตามแพ็คเกจอาการเพิ่มภูมิต้านทานให้สัตว์เลี้ยงมีสุขภาพดีขึ้น การรับรองของคลินิกที่ดูแลโดยสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ Kenta Animal Clinic จัดเตรียมทุกขั้นตอนการให้บริการที่ได้มาตรฐาน การรักษาเปิดตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น.

ช่องทางการติดต่อศูนย์รักษาสัตว์ Kenta Animal Clinic
สาขาบริการ : 74 88 ซอย หมู่บ้านเสนานิเวศน์ 1 แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร 10230
โทร : 096-394-1515 , 090-932-3278
Facebook : เคนตะ คลินิกรักษาสัตว์ – เสนานิเวศน์1 เกษตรนวมินทร์ ลาดพร้าววังหิน โชคชัย4

3. โรงพยาบาลสัตว์สุขุมวิท-ปุณณวิถี (Sukhumvit Punnawithi Animal Hospital)
ให้บริการ​ครบวงจรตั้งแต่รักษาสัตว์​ ฉีดวัคซีน ทำหมัน​ ​ถ่ายพยาธิ ผ่าตัด​ ผ่าคลอด ตรวจสุขภาพปากและฟัน มีธนาคารเลือดสุนัข​ (24 ชม.) เอ็กซเรย์ระบบดิจิตอล​ที่ทราบผลทันที มีคลินิกศัลยกรรม​กระดูกและเนื้อเยื่ออ่อน​ คลินิกสัตว์เลี้ยงพิเศษ คลินิกสัตว์น้ำ​สวยงาม เปิด 9.00 น.- 21.00 น. และมีบริการนอกสถานที่​สำหรับสัตว์น้ำ
สาขาบริการ : บางจาก 625/4 โรงพยาบาลสัตว์ สุขุมวิท-ปุณณวิถี กรุงเทพมหานคร 10260
โทร : 023010378

4. โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ (Thonglor International Pet Hospital) สาขาสุขุมวิท 55 (ซอยทองหล่อ)
รวมศูนย์และคลินิกที่ให้บริการโดยทีมสัตวแพทย์เฉพาะด้าน ไม่ว่าจะเป็นระบบประสาท หัวใจ ตา ผิวหนัง กระดูก เบาหวาน ไทรอยด์ มะเร็ง กายภาพบำบัด ศัลยกรรม สัตว์เลี้ยงสูงวัย การผ่าตัดส่องกล้อง การแพทย์แผนทางเลือกและองค์รวม บริการส่งสัตว์เลี้ยงไปต่างประเทศ ฯลฯ เปิด 8.00 – 20.00 น
สาขาบริการ :205/19-20 ซอยทองหล่อ ระหว่างซอย 9 กับ11 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
โทร : 020799979

เมื่อสัตว์เจ็บป่วยมักจะแสดงอาการซึม เบื่ออาหาร ดื่มน้ำเยอะ หายใจผิดปกติ หรืออาเจียน ฯลฯ โดยเมื่อสังเกตเห็นอาการผิดปกติ เจ้าของควรจะพาสัตว์เลี้ยงไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจและรักษาอย่างถูกต้อง คลินิกรักษาสัตว์ที่ไหนดี ดังนั้นการรู้พิกัดโรงพยาบาลสัตว์หรือคลินิกสัตว์เอาไว้ก่อนก็จะช่วยให้สามารถพาสัตว์เลี้ยงเข้ารับการรักษาได้อย่างทันการณ์นะคะ

โค้ดส่วนลด Shopee คือโค้ดที่ผู้ซื้อสามารถเก็บและนำมาใช้เป็นส่วนค่าสินค้าในคำสั่งซื้อได้

โค้ดส่วนลด Shopee คือโค้ดที่ผู้ซื้อสามารถเก็บและนำมาใช้เป็นส่วนค่าสินค้าในคำสั่งซื้อได้ โค้ดส่วนลด Shopee มีหลายประเภท ดังนี้

โค้ดส่วนลดจาก Shopee เป็นโค้ดที่ Shopee แจกให้กับผู้ใช้ทั่วไป โดยสามารถรับได้จากหน้ารวมโค้ดส่วนลดของ Shopee หรือจากกิจกรรมต่างๆ ของ Shopee
โค้ดส่วนลดจากร้านค้า เป็นโค้ดที่ร้านค้าบน Shopee แจกให้กับลูกค้า โดยสามารถรับได้จากหน้าร้านค้า หรือจากกิจกรรมต่างๆ ของร้านค้า
โค้ดส่วนลดจากพันธมิตร เป็นโค้ดที่ Shopee ร่วมกับพันธมิตรต่างๆ แจกให้กับลูกค้า โดยสามารถรับได้จากหน้ารวมโค้ดส่วนลดของ Shopee หรือจากกิจกรรมต่างๆ ของพันธมิตร
โค้ดส่วนลด Shopee สามารถใช้ได้กับสินค้าทุกประเภทบน Shopee แต่อาจมีเงื่อนไขการใช้งานที่แตกต่างกันไป เช่น สามารถใช้ได้เฉพาะสินค้าบางรายการ หรือสามารถใช้ได้เฉพาะช่วงเวลาที่กำหนด เป็นต้น

วิธีการใช้โค้ดส่วนลด Shopee มีดังนี้

เลือกสินค้าที่ต้องการซื้อ
ใส่โค้ดส่วนลดลงในช่อง “โค้ดส่วนลด”
กด “ใช้”
ตรวจสอบยอดรวมที่ลดลง
ตัวอย่างโค้ดส่วนลด Shopee

โค้ดส่วนลดจาก Shopee เช่น โค้ดลดสูงสุด 100 บาท, โค้ดลด 10%, โค้ดส่งฟรี
โค้ดส่วนลดจากร้านค้า เช่น โค้ดลด 50 บาท, โค้ดลด 15%, โค้ดแถมฟรี
โค้ดส่วนลดจากพันธมิตร เช่น โค้ดส่วนลดจากบัตรเครดิต, โค้ดส่วนลดจากผู้ให้บริการขนส่ง
การเลือกใช้โค้ดส่วนลด Shopee จะช่วยให้คุณประหยัดเงินในการซื้อสินค้าได้ แนะนำให้ติดตามข่าวสารและกิจกรรมของ Shopee เพื่อรับโค้ดส่วนลดใหม่ๆ อยู่เสมอ

spa in bangkok กู้คืนสภาพร่างกายหนุ่มสาววัยทำงานในทุกวันนี้

กรุงเทพ ถือเป็นสถานที่ที่มี ร้านนวดสปา โด่งดังเป็นที่นิยมอันดับต้น ๆ ของโลก เรียกได้ว่าเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวนานาประเทศเลยที่เดียว โดยมีบริการ นวดสปาที่ครอบคลุมหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น นวดแผนไทย, นวดน้ำมัน, อโรม่า, ประคบสมุนไพร, หรือว่าออนเซ็น มั่นใจได้เลยว่าจะทำให้ความเหนื่อยล้า, ปวดเมื่อย, หรืออ่อนเพลีย ของคุณหายเป็นปลิดทิ้ง

นวดสปาร้านเด็ด spa in bangkok บริการอย่างเหนือระดับ พิถีพิถันใส่ใจทุกรายละเอียด ซึ่งร้านนวดสปาที่เรารวบรวมมาในวันนี้ ได้รับรางวัลการันตีคุณภาพด้านการให้บริการมาแล้วมากมาย และยังตั้งอยู่ในย่านสุดฮิตของนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีบริการด้านสุขภาพและความงามอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นลิสร้านนวดสปาที่ห้ามพลาดเลยทีเดียว สำหรับมนุษย์เงินเดือนในเมืองกรุง ที่ต้องทุ่มเทแรงกายไปกับการทำงาน นั่งหน้าคอมพิวเตอร์ติดต่อกันวันละหลาย ๆ ชั่วโมง คุณอาจอยากตามหาร้านนวดในกรุงเทพ เพื่อกู้คืนสภาพร่างกายให้กลับมากระปรี้กระเปร่าให้เหมือนเดิม เนื่องจากปัญหา คอ บ่า ไหล่ และหลัง เป็นปัญหายอดนิยมของหนุ่มสาววัยทำงานในทุกวันนี้ ไม่ต้องรอจนถึงอายุเยอะก็เริ่มปวดกันแล้ว หรือจะเรียกว่าอาการ “ออฟฟิศซินโดรม” แม้ว่าการนวดอาจไม่ใช่การรักษาที่ตรงจุด แต่ก็สามารถบรรเทาอาการได้

สำหรับ spa in bangkok เป็นร้านที่คุณมองภายนอกอาจจะไม่เชื่อว่านี่คือร้านนวด เนื่องจากการตกแต่งที่ดูโอ่อ่า มีดีไซน์ที่ดูมินิมอล คล้าย ๆ กับว่าจะเป็นคาเฟ่เสียมากกว่า หากคุณกำลังคิดว่ากำลังมาผิดร้าน อย่าพึ่งหันหลังกลับ เพราะคุณมาถูกร้านแล้ว

spa in bangkok ร้านนวดที่มีบริการหลากหลาย นอกจากจะมีบริการนวดแล้ว ยังมีบริการสปาต่าง ๆ อีกด้วย มีรูปแบบการนวดให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เหมาะกับการนวดเพื่อผ่อนคลายพร้อมกับให้คุณสาว ๆ ทำสวยได้ในเวลาเดียวกัน เหมาะกับคู่รักที่ต้องการจูงมือไปผ่อนคลาย ฝ่ายชายก็นวดคลายความตึงของกล้ามเนื้อ ส่วนฝ่ายหญิงก็สามารถทำสวยได้ตามต้องการ หมดปัญหาการนั่งรอแล้วทะเลาะกันลงง่าย ๆ หากคุณอยากมา spa in bangkok แต่ต้องติดอยู่บนรถเนื่องจากสภาพการจราจร นั่นอาจทำให้จากที่คุณจะได้หายปวดเมื่อย คุณกลับต้องมาปวดเมื่อยเพิ่มจากการขับรถอีก ดังนั้นลองมามองหาร้านที่สามารถนวดได้สบาย ๆ เพราะ ร้าน สปา สามารถเดินทางได้สะดวก ติดกับรถไฟฟ้า spa in bangkok ร้านที่มีความครบวงจร สามารถนวดผ่อนคลายจุดที่เมื่อยล้าตามร่างกาย รวมไปถึงสามารถทำสปาได้อีกด้วย ให้บริการด้วยนักบำบัดที่มีประสบการณ์และความชำนาญสูง มั่นใจได้เลยว่านวดตรงจุดอย่างแน่นอน พร้อมกับการนำผลิตภัณฑ์ที่มีสารหอมระเหยมาใช้ เพื่อผ่อนคลายลึกไปจนถึงภายในร่างกาย

อัลเทอร่า ชลบุรี ช่วยยกกระชับ ลดปัญหาผิวหย่อนคล้อย และปรับรูปหน้าได้

อัลเทอร่า ชลบุรี นวัตกรรมใหม่ในการยกกระชับผิวและลดริ้วรอย อัลเทอร่า คือคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ ที่จะเข้าไปที่ชั้นผิวและชั้น SMAS ทำให้ผิวหดตัวและยกกระชับขึ้น กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง และลดริ้วรอย อัลเทอร่า ชลบุรี สามารถยกกระชับผิวไปพร้อมกับการปรับคลื่นเสียงที่พอเหมาะและเหมาะสมกับสภาพผิวหนังของลูกค้าแต่ละบุคคลได้อย่างแม่นยำ ตรงจุด เห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และให้ผลการรักษาที่ดีกว่าเทคโนโลยีอื่นๆ

ลักษณะการทำงานของ Ulthera
เครื่องจะส่งพลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวน์ ที่มีความเฉพาะเจาะจงไปยังผิวหนัง ซึ่งถูกเปลี่ยนเป็นความร้อนจุดเล็กๆ ลงลึกสู่ใต้ชั้นผิวหนังชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า ชั้นกล้ามเนื้อส่วนบน (SMAS) ในระดับที่เทคโนโลยีอื่นๆ ไม่สามารถทำได้มาก่อน ทำให้เกิดรอยหดตัวขนาด 1 มม. คล้ายกับการเย็บเนื้อใต้ผิวหนังในชั้น SMAS เป็นจุดเล็กๆ ระยะห่างระหว่างจุดเท่าๆ กันประมาณ 1-1.5 มม. และลงลึกได้ถึงตำแหน่งที่ต้องการจะทำการรักษา โดยได้ผลการรักษาที่แน่นอน กระตุ้นเกิดการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ซึ่งจะรั้งเส้นใยคอลลาเจนในแนวตั้งและแนวนอนที่ยึดกับผิวชั้นบนให้ดีขึ้นด้วย ผลหลังการรักษาคือ ผิวค่อยๆ ถูกรั้งตึง และยกกระชับเรียบเนียนขึ้นอย่างจากภายในสู่ภายนอก

การทำ อัลเทอร่า ชลบุรี ทำจุดไหนได้บ้าง

อัลเทอร่า ชลบุรี เป็นแก้ไขปัญหาผิวของผิวที่แตกต่างกันได้อย่างตรงจุด ได้แก่ บริเวณใบหน้า หน้าผาก แก้ม กรอบหน้า ร่องแก้ม คิ้ว หางตา รอบดวงตา มุมปาก ใต้คาง ลำคอ หน้าอก

วิธีดูแลตัวเองหลังจากการทำอัลเทอร่า ชลบุรี

การทำ อัลเทอร่า ชลบุรี เห็นผลทันทีหลังทำประมาณ 20-30% จากนั้น ผลลัพธ์ชัดเจนภายใน 1-3 เดือน ผลลัพธ์จะค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ และผลลัพธ์จะอยู่ได้นานถึง 1 ปี (ผลลัพธ์ของแต่ละคนอาจจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับสภาพผิว อายุ การดูแลตัวเองหลังทำ และการใช้ชีวิตประจำวันอีกด้วย)

หลังทำสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ เนื่องจาก อัลเทอร่า เป็นนวัตกรรมที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องฟักฟื้น สามารถแต่งหน้าได้เลยทันที ทาครีมบำรุง และครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงแสงแดด หรือความร้อน เช่น สตรีมซาวน่า ภายหลังทำ 4-5 วัน ในกรณีที่มีอาการบวม สามารถประคบเย็นในกรณีที่มีอาการบวมแดงมาก

เปิด ร้านขายอาหารสัตว์ ต้องเตรียมตัวยังไงถึงจะไปรอด

ร้านขายอาหารสัตว์ คือ ธุรกิจยอดนิยมที่ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยไหนก็ขายดีมีรายได้เสมอ แต่บอกเลยว่าหากคิดจะเปิด ร้านขายอาหารสัตว์ ทั้งที ก็ต้องทำการบ้านกันสักหน่อยถึงจะประสบความสำเร็จได้ และเหนือสิ่งอื่นใจเลย จะต้องมีใจรักในธุรกิจนี้จริง ๆ เพราะนี่คือหัวใจสำคัญในการเปิดประตูสู่ธุรกิจ Pet Shop
ดังนั้นเพื่อช่วยให้คุณเริ่มต้นอย่างถูกต้องและเตรียมตัวเปิด ร้านขายอาหารสัตว์ ให้ปัง มีเคล็ดลับดี ๆ มาฝากว่าที่เจ้าของธุรกิจ Pet Shop ซึ่ง สามารถแบ่งได้ 3 หัวข้อหลัก ๆ คือ
– ร้านขายอาหารสัตว์มีอะไรบ้าง
– งบในการเปิดร้านขายอาหารสัตว์
– เทคนิคเปิดร้านขายอาหารสัตว์ให้รุ่ง

ก่อนจะเปิด ร้านขายอาหารสัตว์ มาดูกันดีกว่าว่ามีร้านไหนที่น่าสนใจหรือเป็นที่นิยมกันบ้าง ซึ่งหลัก ๆ แล้วก็จะแบ่งได้ดังนี้
– ร้านขายอาหารไก่ อาหารเป็ด
– ร้านขายอาหารนก
– ร้านขายอาหารหมู
– ร้านขายอาหารวัว
– ร้านขายอาหารปลา
– ร้านขายอาหารแมวและสุนัข หรือที่เราเรียกกันว่า Pet Shop
– ร้านขายอาหารกระต่าย

โดย ร้านขายส่งอาหารสัตว์ เหล่านี้มักจะเป็น ร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง ร่วมกันในร้านด้วย เพื่อจำหน่ายสินค้าครบวงจรและอำนวยความสะดวกของลูกค้าให้ได้มากที่สุด ลูกค้าจะได้มาร้านเดียวจบ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับร้านได้ด้วยเช่นกัน

อย่างเช่นร้านขายอาหารแมวและสุนัข ก็มักจะมีสินค้าอื่น ๆ ไว้ขายในร้านด้วย เช่น แชมพูกำจัดเห็บ หมัด, กรง, ปลอกคอ, ที่นอน, สายจูง, เสื้อผ้า, เครื่องประดับ ฯลฯ ซึ่งขอบอกเลยว่าสินค้าแฟชั่นสำหรับน้องหมาน้องแมวนั้นคือ กำไรหลักของร้าน เพราะลูกค้ามักจะซื้อด้วยความชอบเป็นหลักและไม่ค่อยคิดเยอะในเรื่องของราคา เรียกว่าขอแค่น่ารักและเข้ากับสุนัขหรือแมวที่บ้านก็พร้อมจ่ายแล้ว

แนะนำ หนังสือ การตลาด ที่ควรอ่าน

แนะนำ หนังสือ การตลาด ที่ควรอ่าน

มีหลายหนังสือที่เป็นที่นิยมและมีคุณค่าในด้านการตลาด นี่คือบางหนังสือที่ควรอ่านเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการตลาด:

  1. “การตลาดหลักสูตร” (Marketing Management) โดย Philip Kotler: หนังสือนี้เป็นหนังสือหลักในราชการการตลาดและรูปแบบการจัดการการตลาดที่ครอบคลุม.
  2. “วันเดียวรู้ทั้งหลักสูตรการตลาด” (The One-Day Marketing Plan) โดย Mark Satterfield: หนังสือเรื่องนี้เน้นการสร้างแผนการตลาดอย่างอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ.
  3. “ผลไม่เคยโกหก: หลักสูตรการตลาดสร้างผลลัพธ์” (Results Without Authority) โดย Tom Kendrick: หนังสือนี้เน้นเรื่องการบริหารแคมเปญการตลาดและการสร้างผลลัพธ์.
  4. “แสงที่คุณไม่เคยเห็น: ลายแทงมาคเก็ตติ้งในยุคข้อมูลมหัศจรรย์” (Invisible Influence: The Hidden Forces that Shape Behavior) โดย Jonah Berger: หนังสือนี้เปิดเผยประเด็นที่เกี่ยวกับการทำให้ผลิตภัณฑ์และไอเดียเป็นที่นิยมและสร้างกระแสการตลาด.
  5. “ความน่าเชื่อถือ: หลักสูตรสำหรับการสร้างความน่าเชื่อถือและความซื่อสัตย์ในการตลาด” (Trust Me, I’m Lying: Confessions of a Media Manipulator) โดย Ryan Holiday: หนังสือนี้เปิดเผยเรื่องการสื่อสารและการสร้างความน่าเชื่อถือในยุคสื่อสารมวลพลัง.
  6. “สมาร์ทและสวย: หลักสูตรการตลาดในยุคของคนเห็นสีเส้นเดี่ยว” (Smart and Sexy: The Evolutionary Origins and Biological Underpinnings of Cognitive Differences between the Sexes) โดย Roderick K. MacFarquhar: หนังสือนี้มุ่งเน้นไปที่การตลาดในสังคมของคนเห็นสีเส้นเดี่ยว.
  7. “ทำยังไงให้ใครอ่าน: หลักสูตรการตลาดที่น่าสนใจ” (Made to Stick: Why Some Ideas Survive and Others Die) โดย Chip Heath และ Dan Heath: หนังสือนี้เสนอหลักสูตรเพื่อทำให้ไอเดียและข้อความของคุณน่าสนใจและได้รับความสนใจ.
  8. “ลายที่คนจำ: หลักสูตรการตลาดที่ผลิตประสบการณ์ที่น่าจดจำ” (Made to Stick: Why Some Ideas Survive and Others Die) โดย Chip Heath และ Dan Heath: หนังสือนี้เน้นการสร้างข้อความที่น่าจดจำและได้รับความสนใจ.

หนังสือเหล่านี้เป็นแหล่งข้อมูลมีค่าเพื่อพัฒนาความรู้เกี่ยวกับการตลาดและสร้างกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพ. คุณสามารถเลือกอ่านตามความสนใจและเป้าหมายของคุณในการพัฒนาทักษะในการตลาด.

หลักการขายบริการและการติดตามผล

หลักการขายบริการและการติดตามผล

หลักการขาย เช่น การให้บริการที่เป็นเลิศและการติดตามผลอย่างมีประสิทธิภาพ มีความสำคัญต่อการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าที่แข็งแกร่งและขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ นี่คือวิธีที่คุณสามารถรวมหลักการเหล่านี้เข้ากับกระบวนการขายของคุณ:

การฟังอย่างกระตือรือร้นและการทำความเข้าใจ: เมื่อมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า ให้ฝึกฝนการฟังอย่างกระตือรือร้นเพื่อทำความเข้าใจความต้องการ ความท้าทาย และเป้าหมายของพวกเขา แสดงความสนใจและความเอาใจใส่อย่างแท้จริงเพื่อสร้างสายสัมพันธ์และสร้างความไว้วางใจ ถามคำถามที่เกี่ยวข้องเพื่อทำความเข้าใจความต้องการของพวกเขาอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นและปรับแต่งบริการของคุณให้สอดคล้องกัน

การตอบสนองอย่างรวดเร็ว: ตอบสนองต่อข้อซักถาม คำขอ และข้อกังวลของลูกค้าในทันที ไม่ว่าจะเป็นทางโทรศัพท์ อีเมล หรือข้อความทางโซเชียลมีเดีย มุ่งมั่นที่จะให้การตอบสนองที่เป็นประโยชน์และทันท่วงที ความรวดเร็วแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการบริการลูกค้าและสร้างความประทับใจในเชิงบวกต่อลูกค้าที่มีศักยภาพและลูกค้าปัจจุบัน

บริการส่วนบุคคล: ปฏิบัติต่อลูกค้าแต่ละรายเหมือนเป็นรายบุคคลและปรับแต่งบริการของคุณให้ตรงกับความต้องการเฉพาะของพวกเขา เสนอคำแนะนำ โซลูชัน หรือคำแนะนำผลิตภัณฑ์ส่วนบุคคลตามความชอบและข้อกำหนดของพวกเขา การปรับให้เป็นส่วนตัวระดับนี้ช่วยเพิ่มประสบการณ์ของลูกค้าและแสดงให้เห็นว่าคุณใส่ใจในความพึงพอใจของพวกเขาอย่างแท้จริง

การสื่อสารที่ชัดเจน: สื่อสารกับลูกค้าอย่างชัดเจนและมีประสิทธิภาพตลอดกระบวนการขาย ให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ ราคา ตัวเลือกการจัดส่ง และรายละเอียดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ใช้ภาษาที่ชัดเจนและกระชับ หลีกเลี่ยงศัพท์แสงทางเทคนิค เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าเข้าใจสิ่งที่คุณนำเสนอ

การติดตามผลหลังการขาย: อย่าถือว่าการขายเป็นจุดสิ้นสุดของความสัมพันธ์ของคุณกับลูกค้า ติดตามผลหลังการขายเพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าพึงพอใจและแก้ไขข้อกังวลหลังการซื้อ ซึ่งสามารถทำได้ผ่านอีเมลขอบคุณ แบบสำรวจความพึงพอใจ หรือการโทรศัพท์ การแสดงว่าคุณให้คุณค่ากับคำติชมของพวกเขาและมุ่งมั่นที่จะสร้างความพึงพอใจในระยะยาวของพวกเขา จะช่วยกระชับความสัมพันธ์กับลูกค้า

คาดการณ์ความต้องการของลูกค้า: คาดการณ์ความต้องการของลูกค้าในเชิงรุกด้วยการรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มของอุตสาหกรรมและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ นำเสนอข้อมูลเชิงลึก การอัปเดต หรือโซลูชันใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจหรือส่วนบุคคล คุณจะวางตำแหน่งตัวเองเป็นที่ปรึกษาที่เชื่อถือได้แทนที่จะเป็นเพียงพนักงานขาย

การสร้างความสัมพันธ์: มุ่งเน้นที่การสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้ามากกว่าการขายแบบครั้งเดียว มีส่วนร่วมกับพวกเขาเป็นประจำผ่านจดหมายข่าวทางอีเมล การโต้ตอบทางโซเชียลมีเดีย หรือข้อเสนอพิเศษ อยู่ในใจเสมอด้วยการให้คุณค่าแม้ในขณะที่พวกเขาไม่ได้ซื้ออย่างจริงจัง

การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง: ประเมินและปรับปรุงการขายและกระบวนการติดตามผลของคุณอย่างสม่ำเสมอ ขอคำติชมจากลูกค้าและวิเคราะห์ประสิทธิภาพการขายของคุณเพื่อระบุจุดที่ต้องปรับปรุง ปรับแนวทางของคุณตามความต้องการของลูกค้าและการเปลี่ยนแปลงของตลาด

ด้วยการรวมหลักการขายเหล่านี้เข้ากับบริการและกิจกรรมติดตามผลของคุณ คุณจะสามารถเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า ส่งเสริมความภักดี และสร้างธุรกิจซ้ำได้ วิธีการที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเติบโตของธุรกิจที่ยั่งยืน