บอกวิธีสอนทำขนมไทยบุหลันดั้นเมฆ

ชวนย้อนรอยความอร่อยไปกับสูตรการสอนทำขนมไทยโบราณหากินยาก ชื่องามนามเพราะไม่พอ อร่อยล้ำค่าแบบไทยแท้ ๆ ใครอยากลองอย่ารอช้า ถึงบางสูตรจะประยุกต์ให้เข้ากับยุคกับสมัยมากขึ้น แต่รับรองว่า ความอร่อยไม่น้อยหน้าเลยล่ะ

ขนมไทยทั่วไปหาซื้อแสนง่ายไม่ต้องทำเองก็ได้ แต่ถ้าหากอยากกินขนมไทยโบราณคงต้องทำเองค่ะ เพราะแต่ละอย่างหากินยากมาก ๆ แทบจะไม่มีหลงเหลือให้เห็นแล้วด้วย นำเสนอวิธีสอนทำขนมไทยโบราณ หากินยาก ยกตัวอย่างเช่น

ขนมบุหลันดั้นเมฆ ขนมไทยโบราณเมนูนี้หลายคนอาจไม่รู้จักรวมทั้งไม่เคยเห็นหน้าตาอีกด้วย ตัวขนมสีสวยจากน้ำดอกอัญชัน ตรงกลางหยอดกะทิและไข่แดงลงไป หน้าตาสวยงามประณีต

ส่วนผสม ขนมบุหลันดั้นเมฆ

  • ดอกอัญชัน
  • น้ำร้อน (สำหรับคั้นน้ำอัญชัน)
  • กะทิ 120 กรัม
  • แป้งข้าวเจ้า 10 กรัม (สำหรับผสมกับกะทิ)
  • เกลือ เล็กน้อย
  • ไข่แดง 10 ฟอง
  • น้ำตาลไอซิ่ง 60 กรัม
  • กลิ่นวานิลลา เล็กน้อย
  • แป้งข้าวเจ้า 100 กรัม (สำหรับผสมกับน้ำดอกอัญชัน)
  • แป้งเท้ายายม่อม 40 กรัม
  • น้ำเปล่า 200 กรัม
  • น้ำเชื่อม 350 กรัม (พักไว้จนเย็น)
  • ถ้วยตะไล (สำหรับนึ่งขนม)

 

วิธีทำขนมบุหลันดั้นเมฆ

  1. คั้นดอกอัญชันกับน้ำร้อนให้ได้ปริมาณ 100 กรัม พักไว้
  2. ผสมกะทิกับแป้งข้าวเจ้า 10 กรัม เข้าด้วยกันแล้วนำไปเคี่ยวในกระทะให้พอข้น ๆ ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย คนให้เข้ากัน ปิดไฟพักไว้
  3. ตีผสมไข่แดงกับน้ำตาลไอซิ่งให้เข้ากัน เติมกลิ่นวานิลลาลงไปเล็กน้อยเพื่อดับกลิ่นคาว คนผสมให้เข้ากัน จากนั้นนำไปกรองให้เนื้อเนียน ๆ เตรียมไว้
  4. ผสมแป้งข้าวเจ้า 100 กรัม กับแป้งเท้ายายม่อมให้เข้ากัน ค่อย ๆ เติมน้ำเปล่าทีละน้อยลงไปผสม นวดแป้งประมาณ 5 นาที จนแป้งมีลักษณะเงา เทน้ำเปล่าที่เหลือลงไปจนหมด ตามด้วยน้ำเชื่อมที่เย็นแล้ว เทน้ำดอกอัญชันลงไปผสม คนผสมให้เข้ากันแล้วนำไปกรอง พักไว้
  5. นำถ้วยตะไลไปนึ่งให้ร้อน หยอดส่วนผสมแป้งลงไปจนเกือบเต็ม ปิดฝานึ่งในน้ำเดือดประมาณ 2-2.30 นาที โดยสังเกตจากขอบขนมเริ่มมีสีเข้มขึ้นและตรงกลางมีสีอ่อน ๆ เป็นใช้ได้ รีบนำออกมาจากชุดนึ่งแล้วคว่ำถ้วยขนมลงชาม แป้งที่ยังไม่สุกก็จะไหลออกมา ทำให้ขนมเป็นหลุมตรงกลาง
  6. บีบหรือหยอดกะทิที่เคี่ยวไว้ลงไปในหลุม นำไปนึ่งต่ออีก 1 นาที พอครบเวลาก็หยอดส่วนผสมไข่แดงลงในหลุม จากนั้นนำไปนึ่งต่ออีกประมาณ 5 นาที ตักใส่ภาชนะ พร้อมเสิร์ฟ